Archive for the ‘งานกินควายดิบ’ Category
พอดีพี่ช่างภาพไปถ่ายรูปพิธีเลี้ยงดง ที่อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เลยจิ๊กภาพมา
เห็นรูปบรรยากาศแล้ว ชวนอ้วกอยู่ไม่น้อย เห็นภาพแล้วไม่อยากจะบรรยายความรู้สึกส่วนตัวมากซักเท่าไหร่
เดี๋ยวจะไปกระทบความรู้สึกคนที่นับถือพิธีกรรมนี้ แต่.. งงๆ อยู่ว่าพิธีกรรมนี้เป็น การบูชาผี
แล้วทำไมถึงมีรูปพระพุทธเจ้าอยู่ด้วย
..ที่อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอนก็มี “การบูชาผี” แต่ไม่ได้ฆ่าควายแต่จะฆ่าไก่ ..น่าสงสารสัตว์พวกนี้จริงๆ
..เกิดมาในแม่ฮ่องสอน โตมาจากสังคมบ้านนอกๆ เรื่องความเชื่อโชคลาง ผีป่า มันมีมานานมาก
ก็ได้แต่เฉยๆ ไม่ขัดขวางหรือส่งเสริม ถ้าเชื่อแล้วสบายใจก็ปล่อยให้เค้าเชื่อไป
แต่เมื่อเชื่อแล้วไปเบียดเบียนผู้อื่น อันนี้ค่อนข้างเสียความรู้สึก..
มีครั้งนึงที่กลับบ้านไป เข้าพิธีมัดมือ(เหมือนกับการขอให้ผีบ้านคุ้มครองลูกๆหลานๆ)
จะต้องฆ่าไก่ 1 ตัว นำมาต้มเพื่อเอาไปบูชาผีบ้านผีเรือน
.. นังพนมมือไหว้ไป นังคิดไป “เรานั่งขอให้คนอื่นคุ้มครอง เพราะกลัวตัวตาย กลัวคนที่เรารักไม่สบาย
แล้วไก่ตัวนี้ล่ะ มันจะรู้สึกยังไงนะ ..”
ถ้าพูดถึงสังคมบ้านนอกเค้าคิดกันแบบนี้ ก็เพราะความเชื่อที่ญาติโกโหติกาเค้าสั่งสอนมา
แต่ถ้ามามองถึงคนในเมืองล่ะ มันก็มีเหมือนกันนะ แต่ไม่ใช่ประเพณี เป็นค่านิยม
อย่างเช่น งานวันเกิด เดี๋ยวนี้พอถึงวันเกิดใคร คนนั้นก็จะต้องเลี้ยงเพื่อนฝูง ถ้าเป็นเด็กหอ ก็เลี้ยงหมูกระทะ
ถ้าอยู่บ้านก็ฆ่าหมู ฆ่าไก่ย่างกินกัน
มันก็ไม่ต่างกัน ..สำหรับคนในเมืองที่คิดว่าคนบ้านนอกโหดร้ายนะ ลองนึกดูว่าสิ่งที่ทำกันเป็นเรื่องธรรมดาในเมือง
มันก็คล้ายกับสิ่งที่คนบ้านนอกทำกัน
” พระพุทธศาสนาสอนว่า บาป บุญ คุณ โทษ ทุกสิ่งทุกอย่าง มันสำคัญอยู่ที่จิดใจ
ถ้าไม่ตั้งใจฆ่า ก็ผิดน้อย แต่ถ้าตั้งใจฆ่าแล้ว ถึงแม้จะฆ่าไม่ตาย ไม่ได้ลงมือฆ่า มันก็ผิดอย่างมากแล้ว “
เกี่ยวกับพิธีเลี้ยงดง(copy เนื้อหามาจาก cmprice.com)
โดยขั้นตอนของพิธีเริ่มจากการนำควายดำตัวผู้ ที่มีลักษณะเขายาวเท่าหู จะถูกพามาเชือดที่บริเวณลานโล่ง ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า ดง จากนั้นจะมีการแห่พระบฏ (ผ้าซึ่งเป็นภาพของพระพุทธเจ้า ปางห้ามญาติ อายุเก่าแก่ประมาณ 100 ปี) เข้ามาที่ดง เพื่อเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า จากนั้นจะมีผู้เฒ่าผู้แก่เชิญวิญญาณผีปู่แสะย่าแสะ และเหล่าบรรดาลูกๆ อีก 32 ตนมาเข้าร่างทรงซึ่งไม่เปิดเผยชื่อสลับกับเสียงพระสวด โดยเริ่มจากผีปู่แสะก่อน เมื่อผีเข้าร่างทรงก็จะเข้ามากัดกินเนื้อควายดิบ และของเซ่นอื่นๆ ซึ่งพิธีกรรมในวันนี้นั้นมีประชาชนที่ให้ความสนในทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศรวมถึงสื่อมวลจากต่างประเทศกว่า 5,000 คนมาร่วมชมพิธีกรรมที่เก่าแก่นี้
สำหรับพิธีกรรมเลี้ยงดง ของชาวเชียงใหม่นั้นจัดขึ้นติดต่อกัน 100 กว่าปีแล้ว โดยตำนานปู่แสะย่าแสะ ในอดีตมีเมืองหนึ่งชื่อ บุพพนคร เป็นเมืองชนเผ่าลัวะ ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำปิงและดอยอ้อยช้าง ชาวบ้านแห่งนี้อยู่กันแบบไม่เป็นสุขเพราะถูกยักษ์ 3 ตน ยักษ์พ่อแม่ลูก จับเอาชาวเมืองไปกินทุกวันๆ จนชาวเมืองต้องหนีออกจากเมืองเนื่องจากกลัวยักษ์ ต่อมาพระพุทธเจ้า รับรู้ความเดือดร้อนของชาวเมืองลัวะ จึงได้เสด็จมาโปรดและแสดงอภินิหาร แสดงธรรม ให้ยักษ์สามตนได้เห็น จนยักษ์สามตนนั้นเกิดความเลื่อมใส และให้ยักษ์ทั้งสามตนสมาทานศีลห้าสืบไป ต่อมายักษ์ทั้งสามตนนึกได้ว่าพวกตนเป็นยักษ์ต้องประทังชีวิตด้วยการกินเนื้อ จึงได้ขอพระพุทธเจ้ากินควายปีละ 1 ตัว พระพุทธเจ้าไม่ตอบ ยักษ์ทั้งสามตนจึงได้ไปขอกับเจ้าเมืองลัวะ ซึ่งทางเจ้าเมืองก็ได้นำควายมาถวายให้ปีละ 1 ตัว และยักษ์ก็จะดูแลชาวบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุขสืบไป ซึ่งยักษ์ตัวพ่อชื่อปู่แสะ ยักษ์ตัวแม่ชื่อย่าแสะ หลังสิ้นสมัยปู่แสะย่าแสะ แล้วชาวบ้านชาวเมืองก็ยังเกรงกลัวอิทธิฤทธิ์อยู่และหวังให้ปู่แสะย่าแสะ ช่วยกันรักษาพระพุทธศาสนา พร้อมช่วยกันดูแลชาวบ้านชาวเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข จึงได้มีพิธีเซ่นดวงวิญญานที่เรียกกันว่า เลี้ยงดง ตลอดจนถึงปัจจุบันนี้
ความเห็นล่าสุด